คู่ดาว

การกระทบกันของดาว

ดาวคู่มิตร

 

ดาวคู่มิตร โบราณโหราจารย์ได้ผูกกลอนแสดงถึงดาวคู่มิตรไว้ว่า

 

                          “อาทิตย์เป็นมิตรกับครู                           จันทร์โฉมตรูพุธนงเยาว์

                   ศุกร์ปากหวานอังคารรับเอา                           ราหูกับเสาร์เป็นมิตรแก่กัน”

           สำหรับความหมายของดาวคู่มิตรนั้น ย่อมส่งผลในด้านความช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน การปรองดอง การสมัครสมาน ความรัก ความเมตตา ความไว้เนื้อเชื่อใจ จะช่วยในเรื่องอะไรก็พิจารณาดูเรือนชะตาและตามความหมายของดวงดาว 

ดาวอาทิตย์ (๑) ดาวพฤหัสบดี (๕)  เรียกว่า " คู่ปัญญา "

            ดวงอาทิตย์ (๑) เป็นตัวแทนของยศศักดิ์ ดาวพฤหัส (๕) เป็นตัวแทนของปัญญา เมื่อมาเป็นมิตรต่อกันนั่นคือ ทำให้มีปัญญาว่องไวฉลาด เรียนอะไรก็เข้าใจได้รวดเร็ว รู้จักประมาณการหนักเบา ทำให้เป็นที่รักใคร่ของผู้บังคับบัญชาเป็นอันดี

ดาวจันทร์ (๒) กับพุธ (๔)  เรียกว่า " คู่เสน่ห์ "

            ดาวจันทร์ (๒) มีเสน่ห์ทางกาย ดาวพุธ (๔) มีเสน่ห์ทางปาก เมื่อมีดาวคู่นี้ บุคคลนั้นย่อมมีรูปร่างหน้าตาที่ดี กริยามารยาทที่ดี ถือว่าเป็นคนมีเสน่ห์ เจรจาไพเราะ ดาวคู่นี้จึงได้ชื่อว่าเป็นคู่แห่งเสน่ห์ 

ดาวอังคาร (๓) กับดาวศุกร์ (๖)  เรียกว่า " คู่กิเลส "

            ดาวอังคาร (๓) เป็นตัวแทนของความกล้า ดาวศุกร์ (๖) เป็นตัวแทนของกิเลสสมบัติ ดาวคู่นี้ จึงส่งผลให้เป็นผู้ที่มีเงินใช้ไม่ขาดมือ เป็นผู้ขวนขวายหาทรัพย์สินเงินทอง หนักเอาเบาสู้ ซ้ำยังขยันในเรื่องกามารมณ์ ทำให้มีผัวมีเมียเรี่ยราดรอบด้านอย่างไม่มีศีลธรรม

ดาวเสาร์ (๗) กับดาวราหู (๘)  เรียกว่า " คู่นักเลง "

            ดาวเสาร์ (๗) เป็นตัวแทนของโทษทุกข์ ดาวราหู (๘) ความมัวเมา ดาวคู่นี้ มักทำให้เจ้าชะตามีความดื้อรั้น ชอบทางนักเลงนักบู๊ ชอบคบหาสมาคมกับคนชั้นต่ำ มีคู่ครองชั้นต่ำกว่า แต่ลูกน้องพอใจรักใคร่ มักถูกยกย่องให้เป็นหัวหน้าพี่ใหญ่ เพราะ เป็นคนมีใจนักเลง นั่นเอง

ดาวคู่ศัตรู

 

มีกลอนเกี่ยวกับดาวคู่ศัตรูอยู่กลอนหนึ่ง ซึ่งควรจะรู้จัก จดจำให้แม่นยำ นั่นคือ

 

“อาทิตย์ผิดกับอังคาร         พุธอันธพาลวิวาทราหู

ศุกร์กับเสาร์เป็นเสี้ยนศัตรู         จันทร์กับครูเป็นอริแก่กัน”

 

              สำหรับความหมายของดาวคุ่ศัตรูนั้น ย่อมส่งผลในด้านการต่อสู้ การแข่งขัน  การขัดแย้ง การชิงดีชิงเด่น การมานะบากบั่น ความยุ่งยาก ความขัดข้อง และอุปสรรคขัดขวาง การทำลาย

ดาวอาทิตย์ (๑) กับดาวอังคาร (๓)  เรียกว่า " คู่แย่งชู้ " 

            เจ้าชะตาจะมีแผลเป็นที่เท้า หรือ ศีรษะ หรือ ที่ต่างๆ ตามเนื้อตัวที่ดาวคู่นี้ไปอยู่ที่จุดนั้น สาเหตุเกิดจากความสะเพร่าเผอเรอ ความใจร้อนของตนเอง เพราะดาวอาทิตย์ (๑) เป็นธาตุไฟ ดาวอังคาร (๓) เป็นธาตุลม จึงทำให้เป็นคนใจเร็วใจร้อน ทำอะไรมักไม่ระมัดระวัง จะลุกจะนั่งก็ขาดสติไม่รอบคอบ จึงทำให้เกิดเรื่องขึ้นเข้าจนได้ ดาวคู่นี้หากอยู่ในเรือนใด จะทำให้เรือนนั้นรีบร้อนไปด้วย เช่น ถ้าอยู่ในเรือนปัตนิ (เรื่องคู่) เวลาอยากมีคู่ ก็ไม่เหลียวซ้ายแลขวาให้ดีๆ ลูกเมียเขาก็ยังเอา คู่นี้จึงเรียกว่ คู่แย่งชู้ 

ดาวพุธ (๔) กับดาวราหู (๘)  เรียกว่า " คู่ขัดลาภ "

            คู่ศัตรูคู่นี้ ส่งผลให้การพูดจาไม่เข้าหูคน พูดแบบขวานผ่าซาก ทะลุกลางปล้อง ชอบขัดคอคน ทำให้เกิดคู่อริศัตรู ขาดคนช่วยเหลืออุปถัมภ์ หาลาภผลได้ยาก จึงเรียกคู่นี้ว่า คู่ขัดลาภ

ดาวศุกร์ (๖) กับดาวเสาร์ (๗)  เรียกว่า " คู่ขัดเงิน ขัดผัวขัดเมีย "

            มักมีเรื่องยุ่งยากเกี่ยวกับการใช้จ่ายไม่สมดุลกัน เป็นคนกระเหม็ดกระแหม่ ตระหนี่ถี่เหนียว แต่แล้วก็มีคนช่วยใช้ให้หมดไป ความรักไม่สมหวัง แต่งงานโดยไม่มีความสุข บางดวงชะตาเป็นม่าย

ดาวจันทร์ (๒) กับดาวพฤหัสบดี (๕)  เรียกว่า " คู่ขัดทางการกระทำ หรือ ทางความคิด " 

           ดาวจันทร์ (๒) กับดาวพฤหัสบดี (๕) เป็นดาวศุภเคราะห์ด้วยกัน และยังเป็นคู่ธาตุกัน แต่ก็มีส่วนเสียคือ ส่งผลให้ไม่ได้ใช้ความรู้ ความสามารถที่ตนถนัด ถ้าเป็นสามีภรรยา ก็จะมีความคิดเห็นไม่ลงรอยกันแต่ไม่ถึงกับแตกแยกกัน

ดาวคู่ธาตุ

 

เรื่องดาวคู่ธาตุนี้โหราศาสตร์ไทยมีกล่าวไว้ คือ

 

                                     “อาทิตย์เสาร์คู่นี้                             เตโช

                                ปฐวีครูจันโท                                        แนะไว้

                                อุสรินทร์ภุมโม                                     คู่ธาตุ ลมแฮ

                                พุธศุกร์สองนี้ไซร้                                ธาตุน้ำแถลงฯ”

                                                                       หรือ 

                                     “ระวิเสาร์เร่าร้อน                             ไฟรน

                                ศศิชีวดล                                               ดินดั้น

                                ภุมภ์ราหุลมกล                                      ก่อเกียรติ เก่งนา

                                พุธศุกร์อุทกนั้น                                     คู่ธาตุอาจหาญ”

             สำหรับความหมายของดาวคู่ธาตุนั้น ย่อมส่งผลในด้านความมาก มั่นคง ถาวร เป็นปึกแผ่น 

แต่ก็ไม่ใช่ดวงชะตาใดที่ได้ดาวคู่ธาตุ แล้วจะรวย จะดี จะเลิศอลังการเสมอไป  แต่ในความหมายคู่ธาตุก็จะได้ตามพลานุภาพของดาวธาตุนั้นๆ

ดาวอาทิตย์ (๑) กับดาวเสาร์ (๗)  เรียกว่า " คู่ธาตุไฟ "

             

             โดดเด่นเรื่องชื่อเสียง เกรียติยศ แต่จะหาความสุขในชีวิตไม่ได้  เพราะจะมีความมุ่งมั่น  เร่าร้อน 

ขี้หงุดหงิด ว่าจะทำอย่งไร ถึงจะได้ซึ่ง เงินทอง ชื่อเสียง เกรียติยศ นั่นเอง 

เน้นในทาง : ชื่อเสียง  เกรียติยศ  ตำแหน่ง  มีความรวดเร็ว รุนแรง เร่าร้อน แน่นอน              

ดาวจันทร์ ( ๒) กับดาวพฤหัส (๕)  เรียกว่า " คู่ธาตุดิน "

             ความมั่นคง เป็นปึกแผ่น ในเรื่องหลักทรัพย์ ที่ดิน แต่ไม่ได้บอกเรื่องชื่อเสียง จะทำสิ่งใดก็จะค่อยเป็นค่อยไป  ค่อยๆเพิ่มพูน

เน้นในทาง : ความมั่นคง  สมบรูณ์ของหลักฐาน  ค่อยเป็นค่อยไป  ช้าๆ แน่นอน  

ดาวอังคาร (๓) กับดาวราหู (๘)  เรียกว่า " คู่ธาตุลม "

              ความกล้า ใจนักเลง กล้าแสดงออก ทำอะไรว่องไว หุนหันพลันแล่น ชอบเสี่ยง ชอบลุย  ฉกฉวยโอกาสได้ดี  แต่ไม่ได้บ่งบอกว่าเจ้าชะตาจะร่ำรวย  หรือ จะมีความมั่นคงในชีวิต เพราะ ชีวิตจะบ่งถึงความไม่แน่นอน 

เน้นในทาง : ว่องไว  กระฉับกระเฉง กล้ากระทำ รวดเร็ว  รุนแรง ไม่แน่นอน  

ดาวพุธ (๔) กับดาวศุกร์ (๖)  เรียกว่า " คู่ธาตุน้ำ "

              ความสบายๆ ไม่รีบไม่เร่ง เรื่อยๆ ไม่ทุกข์ร้อนอะไร ดูมีความสุข  แต่ชีวิตก็จะไม่โดดเด่น  เรื่องชื่อเสียง เงินทองอะไร 

เน้นในทาง : ความสุข  ความสบาย  ค่อยเป็นค่อยไป  ไม่รีบเร่ง ช้าๆ  เรื่อยๆ  แปรปรวน

ดาวคู่สมพล

               ดาวคู่สมพล คือการจัดกำลังของดาวพระเคราะห์ที่รวมกันได้จำนวน ๒๗ ตัวเลข ๒๗ มีที่มาจากจำนวนฤกษ์ทั้ง ๒๗ หมู่นั่นเอง โหราจารย์ได้รจนากลอนเพื่อให้จำง่าย ๆ ดังนี้

                                       “ระวิศุกร์เทพเจ้า                          ทวยแถลง

                                   จันทร์ราหูสำแดง                              เด่นชี้

                                   กุมม์ครูคู่พลแข็ง                              ขานเรียก สมพลนา

                                   พุธเสาร์ดาวเยี่ยงนี้                           ยิ่งล้ำกำลัง”

               สำหรับความหมายของดาวคู่สมพลนั้น ย่อมส่งผลในด้านความมีอิทธิพล มีอำนาจ  มีพลัง 

มีวาสนา มีความสามารถสูง ความเก่งกาจ ความสำเร็จ สร้างชื่อเสียง การเงิน การงาน แต่ต้องได้มาจากการลงมือกระทำถึงจะประสบผลสำเร็จ เป็นคู่ดาวที่ไม่ได้ส่งผลถึงความสะดวกความสบาย

ดาวอาทิตย์ (๑) กับดาวศุกร์ (๖) " ให้กำลังทางด้านการเงิน ยศศักดิ์ ความรัก "

            มีความหมายไปในทาง มุ่งมั่น  ความทะเยอทะยาน การสร้างผลประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงินการงาน และชื่อเสียง มีความสามารถในการบริหารจัดการ มีความเป็นผู้นำเต็มตัว 

 

ด้านดี : มีควมสามารถในการแสดงศักยภาพในตัวเอง เด็ดเดี่ยว เด็ดขาด มีความรู้มีความสามารถในด้าน  

           การบริหารงานใหญ่ๆ มักได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม องค์กรใหญ่ มักเครดิตดี 

 

ด้านเสีย : ถือดีหยิ่งทะนง จองหอง เอาแต่ใจตนเอง มักใช้อำนาจในทางที่ผิด หรือ ทุจริต เห็นแก่เงิน

              เห็นแก่ชื่อเสียงเกียรติยศจนลืมศีลธรรม

ดาวจันทร์  (๒) กับดาวราหู (๘) " ให้กำลังในการต่อสู้ผจญภัย "

            มีความหมายไปในทาง ความลุ่มหลงในความสามารถของตนเอง  มีความสามารถในการหมุนเงิน หมุนเงินเก่ง จัดว่าเป็นคนมีเครดิต อาจจะเป็นเจ้าหนี้ก็ได้ ลูกหนี้ก็ได้ มีความฉลาดในการควบคุมผู้อื่น  

หลงในอำนาจ  มักยึดติดในอำนาจหรือความสามารถของตนเอง 

 

ด้านดี : เป็นนักบริหารที่ดี นักปกครอง รู้เท่าทันความคิดของผู้อื่น แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่ง  

           ค้นคว้าให้ได้ถึงความสำเร็จ ว่าง่ายๆ ก็คือ หลงเชื่อว่าตนเองทำได้สำเร็จเลยทำจนสำเร็จ  

           มักมีชีวิตเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ  

 

ด้านเสีย : มักมีหนี้สิน หมุนเงินไม่ทัน ถูกบีบจากอิทธิพลที่ไม่ถูกต้อง มักถูกผูกพันด้วยปัญหาที่ยื้อเยื้อ 

              ชอบใช้โทสะ ชอบบังคับผู้อื่น ตามอารมณ์ของราหู

 ดาวอังคาร (๓) กับดาวพฤหัสบดี  (๕) " ให้กำลังด้านสติปัญญา "

            มีความหมายไปในทาง กล้าแสดงออกซึ่งความคิดเห็น และกล้าแสดงออกถึงความสามารถของตัวเอง  มีความรู้ความสามารถสูง  การเอาจริงจังในการงานที่ได้รับการมอบหมาย ชอบที่จะเอาชนะความสามารถของตนเอง  ชอบที่ว่าด้วยเหตุผลและความถูกต้อง เด่นในเรื่องกฎระเบียบ กฎหมาย เป็นนักกฎหมายได้  มีความรอบรู้ในการช่าง สามารถเป็นวิศวะกรได้ สัมพันธ์ถึงดาวธาตุไฟ ก็วิศวะกรไฟฟ้า  ความรอบรู้ได้ถึงแพทย์ 

 

ด้านดี : ใช้อำนาจด้วยเหตุผลความถูกต้อง ตรงไปตรงมา อยู่ในกฎระเบียบ ขยัน อดทน ชอบศึกษา 

            ค้นคว้า มีความรับผิดชอบในงานที่ตัวเองทำ 

 

ด้านเสีย : ชอบเอาชนะคัดค้าน ความที่รอบรู้ จึงมีความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป  ยึดติดในความรู้ความ  

               สามรถของตนเอง ไม่ใคร่ฟังใคร  ชอบชนะคัดค้าน แม้แต่กับผู้ใหญ่  เพราะถือว่าตนเก่ง 

               ชอบที่จะโชว์พราว ยอมรับคนอื่นได้ยาก ต้องเก่งกว่าตนจึงจะยอมรับได้

ดาวพุธ (๔) กับดาวเสาร์ (๗) " ให้กำลังด้านการพูดการเจรจา "

            มีความหมายไปในทาง วางแผนจัดการโครงการระยะยาวได้ดี  ช่างสังเกตุ  เก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆได้ดี  มีความละเอียดในเอกสารต่างๆ  มีความคิดความอ่านสร้างสรรค์  พูดจาหนักแน่นน่าเชื่อถือ  

 

ด้านดี : เป็นที่ปรึกษางานโครงการระยะยาวได้ดี  เป็นนักวางแผน นักวิเคราะห์ รู้จักรอโอกาส 

           รู้จักรอจังหวะ 

 

ด้านเสีย : ทำอะไรช้าเกินไป มีความยุ่งยากในการกระทำและความคิด  จุกจิกจู้จี้ ขี้บ่น  

              ชอบเก็บตัวสันโดษ